เทศกาลตรุษจีน ช่วงเวลาแห่งความสุขและการเฉลิมฉลองของชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีน เป็นวัฒนธรรมที่ให้ความสำคัญกับการเริ่มต้นปีใหม่ การเปิดรับสิ่งดีๆ สู่ชีวิตด้วยสิ่งอันเป็นมงคล นอกจากบรรยากาศที่เต็มเต็มไปด้วยของขวัญ คำอวยพร และของตกแต่งที่ประดับประดาด้วยสีแดงและสีทองที่คนส่วนใหญ่คุ้นตาแล้ว ในปัจจุบันสิ่งของมงคลเสริมดวงอย่างจีนยังพัฒนารูปลักษณ์และดีไซน์อย่างสวยงาม ผสมสานความเชื่อจนเป็นเครื่องประดับหรือของพกพาที่สามารถสวมใส่ได้อย่างไม่เก้อเขิน ช่วยเสริมดวงเพิ่มความมั่นใจได้อย่างดี
ในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ Sanook Horoscope จึงรวบรวม ไอเทม
เสริมดวงรับตรุษจีนปีกระต่ายทอง 2566 ที่น่าสนใจ มาแนะนำพร้อมความเชื่อในโอกาสเทศกาลตรุษจีนปี 2566 เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาของขวัญให้คนที่รักหรือมอบให้กับตนเองเสริมมงคลให้เฮงปังตลอดทั้งปี
“หยก” หินมงคลชนิดแรกเสริมเฮง
คนจีนเชื่อว่า “หยก” ต้นกำเนิดของหินมงคลหินแรกของจีน ชาวจีนเชื่อว่าหยอกคือแร่จากสรวงสวรรค์ เป็นหินพิเศษที่สามารถปกป้องขจัดสิ่งอัปมงคล หากมีหยกอยู่ในบ้านหรือสวมใส่หยกติดตัว หยกจะช่วยรับเคราะห์ร้ายต่างๆ แทน และเป็นอัญมณีที่ชาวจีนยกย่องว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งคุณธรรม 5 ประการ คือ ใจบุญ สมถะ กล้าหาญ ยุติธรรม และมีสติปัญญา
ชาวจีนเชื่อว่าหยกเป็นอัญมณีศักดิ์สิทธิ์มาช้านาน นำมาซึ่งสิริมงคล ความเจริญรุ่งเรือง ความร่ำรวย ความมีโชคแก่ผู้ครอบครองและทำให้อายุยืนด้วย ดังนั้นชาวจีนในสมัยก่อนไม่ว่าจะเป็นชนชั้นใดจึงนิยมใช้หยกเป็นเครื่องประดับและเครื่องใช้ต่าง ๆ ถึงวันนี้หยกยังคงเป็นของมงคลตามความเชื่อไม่เสื่อมคลาย ต่างแต่รูปแบบที่ถูกผสมผสานให้เข้ายุคเข้าสมัยมากขึ้น ขณะที่บางรูปแบบยังคงความเรียบง่ายอยู่เช่นเดิม เช่น แหวนหยก กำไลหยก
หยกมีหลายสี ไม่เพียงแค่หยกสีเขียวยอดนิยม แต่ยังมีสีสันอื่น ๆ ที่แฝงด้วยความเชื่อที่เชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์ของสิริมงคลที่ในด้านต่าง ๆ ที่แตกต่างกันไป ได้แก่
หยกสีเขียว เป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ร่ำรวย
หยกสีขาว เป็นสัญลักษณ์ของความมีโชค
หยกสีม่วง เป็นสัญลักษณ์ของชีวิตที่มีความสุขสมบูรณ์พร้อม
หยกสีอ่อน เนื้อแก้ว เป็นสัญลักษณ์ของจิตใจที่สงบสุข
นอกจากนี้ ชาวจีนยังเชื่อกันอีกว่าหยกมีอำนาจคุ้มครองผู้สวมใส่ให้พ้นจากสิ่งชั่วร้าย เป็นเครื่องรางบอกเหตุได้ว่าผู้สวมใส่กำลังมีโชคหรือมีเคราะห์อย่างไร สังเกตได้จากสีของหยก หากหยกมีสีสันสดใส นั่นก็หมายความว่า เจ้าของหยกกำลังจะมีโชค หากคุณกำลังมองหาเครื่องประดับเสริมดวงคู่กาย หยก เป็นตัวเลือกที่มาเป็นอันดับแรกเลยทีเดียว
“อักษรมงคล” นำโชคและความสุข
ชาวจีนนิยมติดอักษรมงคลตามบ้านเรือน ด้วยเชื่อกันว่าอักษรจีนเป็นสิริมงคล เป็นตัวนำโชคและความสุข หากติดอักษรมงคลฉลองตรุษจีนไว้ที่บ้านจะนำพาความเป็นสิริมงคล ความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ชีวิตและครอบครัวตลอดทั้งปี พร้อมเป็นยันต์คุ้มภัย ขับไล่สิ่งชั่วร้ายไปได้ ทั้งนำมาประกอบเป็นข้อความหรือกลอนคู่เสริมมงคล
อักษรมงคลที่นิยม เช่น
吉 (jí) คำนี้มีความหมายว่า "เป็นสิริมงคล"
福 (fú) คำนี้มีความหมายว่า "ความสุข"
顺 (shùn) คำนี้มีความหมายว่า "ราบรื่น"
好 (hǎo) คำนี้มีความหมายว่า "ดี"
宝 (bǎo) คำนี้มีความหมายว่า "ของล้ำค่า"
兴 (xīng) คำนี้มีความหมายว่า "โชคดี โชคลาภ"
富 (fù) คำนี้มีความหมายว่า "ร่ำรวย"
高 (gāo) คำนี้มีความหมายว่า "สูงส่ง"
ปัจจุบันอักษรมงคลไม่ได้จำกัดเพียงลายเขียนบนแผ่นกระดาษ แต่นำมาใช้กับเครื่องรางขนาดย่อมในรูปแบบต่างๆ ให้ผู้ที่มีความเชื่อได้พกพาติดตัว ห้อยแขวนกับกระเป๋าสตางค์ หรือใช้ประดับบนของใช้ ทั้งยังใช้เป็นของที่ระลึกจากศาลเจ้าที่ผู้คนเคารพศรัทธา
“ปี่เซียะ” สัตว์มงคลเรียกทรัพย์
ชาวจีนโบราณเชื่อกันว่า “ปี่เซียะ” เป็นสัตว์มงคลในตำนานของจีนที่รวมลักษณะของสัตว์มงคลทั้ง 5 ชนิดไว้ด้วยกัน ได้แก่ มังกร พญาราชสีห์ อินทรี กวาง และแมว โดยตามตำนานเล่าว่าปี่เซียะเป็นลูกมังกรตัวที่ 9 ของพญามังกรสวรรค์ และเป็น “เทพแห่งโชคลาภ”
ปี่เซียะจึงเป็นเครื่องรางที่จะช่วยเรียกทรัพย์ เรียกโชคลาภ เป็นสัตว์มงคลที่ไม่มีรูทวาร จึงกินอย่างเดียว ไม่มีทางถ่ายออกเป็นเคล็ดวิชาหมายถึงเงินเข้าแล้วไม่มีออก ทรัพย์จึงเพิ่มพูนสถานเดียว ทั้งยังเชื่อว่าช่วยป้องกันสิ่งชั่วร้ายต่างๆ จึงนิยมนอกจากรูปปั้นรูปเคารพที่นิยมตั้งหน้าบ้าน ที่ทำงาน หรือทำเป็นรูปปั้นขนาดเล็กใช้วางตั้งบนโต๊ะทำงานเสริมโชคเสริมบารมี ปัจจุบันยังนิยมนำมาทำเป็นเครื่องประดับพกติดตัวในรูปแบบจี้ สร้อย และกำไลข้อมืออย่างแพร่หลาย แต่ถึงอย่างนั้นการพกพาเครื่องรางมงคลปี่เซียะ ก็มีข้อห้ามอยู่บ้างตามความเชื่อด้วยเช่นกัน
ข้อห้ามในการพกพาเครื่องรางมงคลปี่เซียะ
ห้ามลูบปากปี่เซียะ เชื่อว่าหากลูปปากของปี่เซียะจะส่งผลให้ทรัพย์สินไหลออกไป
ห้ามให้คนอื่นมาลูบปี่เซียะ เชื่อว่าลาภผลจะถูกแบ่งออกไปให้กับคนนั้นๆ
ห้ามยกปี่เซียะให้กับคนอื่น เชื่อว่าหากเรานำปี่เซียะให้กับคนอื่น จะเหมือนเป็นการยกโชคลาภให้กับคนๆ นั้นไปด้วย
ห้ามใส่ปี่เซียะไปงานอวมงคล งานที่ไม่เป็นมงคล เชื่อว่าจำให้ปี่เซียะดูดพลังงานที่ไม่ดีเข้ามา
ส่วนเคล็ดวิธีบูชาปี่เซียะ ผู้บูชาปี่เซียะควรมีจิตใจแจ่มใส ร่าเริง เพราะจะส่งผลให้ปี่เซียะมีพลังกล้าแกร่ง และคึกคะนอง ส่งผลให้มีโชคลาภ เก็บเงินอยู่ มีดอกผลเป็นกอบเป็นกำ
“กังหันนำโชค” พัดพาโชคลาภเข้ามา ปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายออกไป
“กังหันนำโชค” เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายจากกระแสความศรัทธาที่ชาวจีนมีต่อ “วัดแชกงหมิว” หรือ “วัดกังหันลม” (Che Kung Temple) ประเทศฮ่องกง สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงตำนานแห่งนักรบราชวงศ์ซ่งชื่อ “แช กง" แม่ทัพปราบศึกที่ทุกแคว้นเขตแดนแผ่นดินใหญ่ต่างก็ยำเกรง
ยามออกรบแม่ทัพแช กง จะใช้สัญลักษณ์รูปกังหัน 4 ใบพัดติดไว้ด้านหน้ารถศึกนำขบวนในกองทัพ เหล่าทหารกล้ามีความเชื่อว่าเมื่อพก พาสัญลักษณ์รูปกังหันนี้ไป ณ ที่ใด ๆ กังหันนี้จะช่วยเสริมสิริมงคล นำพาแต่ความโชคดี มีอำนาจเข้มแข็ง เสริมกำลังใจให้แก่กองทัพจนเป็นตำนานถึงวันนี้
ผ่านมากว่า 300 ปีจากวัดเล็ก ๆ กลายเป็นวัดที่เก่าแก่ที่เป็นแลนด์มาร์คสำคัญของฮ่องกงไปแล้ว ภายในวัดนอกจากมีรูปปั้นสูงใหญ่ของแม่ทัพแชกงซึ่งถือเป็นเทพประจำวัดแห่งนี้ บริเวณด้านข้างยังมีอาวุธรบของทหารแบบโบราณ และมีกังหันอยู่หลายตัว มีกลองด้านละตัว ใครได้มีโอกาสเข้าไปกราบไหว้ที่วัดแชกงจะต้องหมุนกังหัน หรือที่เรียกว่า "กังหันนำโชค" เพื่อหมุนแต่สิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวิต เพื่อความเป็นสิริมงคล เป็นสถานที่สำหรับแก้ปีชงของผู้ที่เกิดปีนักษัตรปีชงในแต่ปีนั้นๆ ด้วย
ความหมายของใบพัดทั้ง 4
ใบที่ 1 เดินทางไปไหนมาไหนปลอดภัย
ใบที่ 2 สุขภาพแข็งแรง อายุยืนยาว
ใบที่ 3 โชคลาภ เงินทองไหลมาเทมา
ใบที่ 4 คิดหวังสิ่งใดสมความปรารถนาทุกประการ
กังหันทั้ง 4 ใบหมุนไปมาช่วยดึงดูดนำพาสิ่งดีเข้ามาในชีวิตและปัดเป่าสิ่งไม่ดีพัดออกไป เมื่อหมุนกังหันตามเข็มนาฬิกา 3 ครั้ง กังหันลมจะพัดพาเอาสิ่งไม่ดีออกจากชีวิต และหากหมุนกังหันกลับทิศ จะช่วยหมุนชีวิตพลิกผันจากร้ายกลายเป็นดีได้
“น้ำเต้า” อายุยืนยาวครอบครัวอุดมสมบูรณ์
“น้ำเต้า” อีกสัญลักษณ์แห่งความเป็นสิริมงคลอย่างหนึ่งของชาวจีน ด้วยมาจากไม้มงคลที่มักจะออกลูกออกผลตลอดจนกว่าจะแก่ตาย ซึ่งมีความหมายว่าการมีดอกออกผลทรัพย์สมบัติงอกเงย เงินทองไหลมาเทมาตลอด อีกทั้งด้วยรูปทรงที่คล้ายเลข 8 เลขมงคลของจีน ที่เปรียบเหมือนสัญลักษณ์ Infinity คือไม่มีที่สิ้นสุด จึงเชื่อว่าน้ำเต้าจะช่วยกักเก็บเงินทอง และกักเก็บสิ่งที่เป็นอัปมงคลไม่ให้เข้ามาในบ้าน ในศาสตร์ฮวงจุ้ยยกให้น้ำเต้าเป็นของชั้นยอดในการแก้ไขฮวงจุ้ยที่น่าเป็นห่วง
นอกจากช่วยเสริมในเรื่องของการเงิน ทรัพย์สินเงินทองไหลมาเทมา ยังเชื่อกันว่าน้ำเต้าส่งเสริมในเรื่องของสุขภาพ ชีวิตยืนยาว ไร้โรคภัยไข้เจ็บ เสริมความรัก หากแขวนประดับไว้หน้าห้องนอนจะช่วยเสริมความรักให้กับคู่สามีภรรยาที่อาจจะมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันอยู่เป็นประจำ หากตั้งไว้ที่หัวเตียงเชื่อว่าน้ำเต้าจะช่วยเก็บพลังงานที่ไม่ดีไว้ หากบ้านไหนที่มีผู้ป่วย ก็เชื่อว่าสามารถนำน้ำเต้าไปไว้ในห้องนอนของคนป่วยเพื่อช่วยให้อาการเจ็บป่วยลดลง และหายจากโรคภัยไข้เจ็บ
ความเชื่อเรื่องน้ำเต้านี้ยังคงมีเช่นเดิมโดยปรับเปลี่ยนจากผลน้ำเต้าผลจริงหรือน้ำเต้าจากวัสดุต่าง ๆ เช่นไม้ หรือทองเหลือง เคยนิยมร้อยรัดด้วยเชือกแดง ใช้แขวนหรือจัดวางในสถานที่ต่าง ๆ แต่ปัจจุบันได้ความเชื่อนี้มาออกแบบใหม่เป็นเครื่องปรับที่สวยงามเสริมสร้างความเป็นสิริมงคลสไตล์คนรุ่นใหม่ได้อย่างงดงาม
