รู้หรือไม่ว่า "อาการคนท้อง" ในช่วงเดือนแรกเป็นอย่างไร? ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์ ผู้หญิงหลายคนอาจมี "อาการคนท้อง" ที่คล้ายคลึงกับอาการก่อนมีประจำเดือนหรือโรคอื่นๆ ซึ่งอาจทำให้เกิดความสับสน บทความนี้จะช่วยไขข้อสงสัยและแนะนำวิธีสังเกต "อาการคนท้อง" ในระยะแรก พร้อมทั้งการดูแลตัวเองให้เหมาะสมเมื่อเริ่มตั้งครรภ์
วิธีสังเกต "อาการคนท้อง" 1-2 สัปดาห์แรก
การสังเกต "อาการคนท้อง" ในช่วงแรกอาจไม่ชัดเจน แต่สามารถดูได้จากการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยของร่างกาย เช่น
- ประจำเดือนขาด
- คลื่นไส้หรืออ่อนเพลีย
- ปัสสาวะบ่อย
- เต้านมตึงหรือขยายใหญ่ขึ้น
- อารมณ์แปรปรวน
ควร จดบันทึก อาการต่างๆ ที่เกิดขึ้น และหากไม่แน่ใจ ควรตรวจสอบด้วย ชุดตรวจการตั้งครรภ์ หรือปรึกษาแพทย์เพื่อยืนยันการตั้งครรภ์
19 สัญญาณ "อาการคนท้อง" ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก
- ประจำเดือนขาด
- ตกขาวเพิ่มมากขึ้น
- เหนื่อยง่ายและหายใจถี่
- คัดเต้านม
- รู้สึกเมื่อยล้า
- คลื่นไส้หรือแพ้ท้อง
- ปัสสาวะบ่อย
- ปวดหัวเป็นบางครั้ง
- ปวดหลัง
- ปวดเกร็งช่องท้อง
- อยากกินอาหารรสเปรี้ยว
- ท้องผูก
- อารมณ์เปลี่ยนแปลงง่าย
- อุณหภูมิร่างกายสูง
- ไวต่อกลิ่น
- หน้ามืดและวิงเวียนศีรษะ
- มีเลือดออกกะปริดกะปรอย
- เจ็บท้องน้อย
- ปวดข้อต่อและกล้ามเนื้อ
ดูแลตัวเองเมื่อเริ่มมี "อาการคนท้อง"
เมื่อพบว่าตั้งครรภ์ ควรใส่ใจดูแลสุขภาพดังนี้:
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ โปรตีน
- ดื่มน้ำให้เพียงพอวันละ 8 แก้ว
- พักผ่อนให้เพียงพอ นอนหลับอย่างน้อย 8 ชั่วโมง
- ออกกำลังกายเบาๆ เช่น เดิน หรือว่ายน้ำ
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่
การดูแลตัวเองให้แข็งแรงจะช่วยให้การตั้งครรภ์ดำเนินไปอย่างราบรื่น และช่วยป้องกันปัญหาสุขภาพต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต