ผลไม้ 7 วันที่ช่วยให้นอนหลับง่ายขึ้น พร้อมคำแนะนำว่าแต่ละอย่างช่วยได้อย่างไร ผลไม้เหล่านี้หาซื้อง่ายและราคาไม่แพงแน่นอนค่ะ
วันจันทร์: กล้วย
ทำไมถึงช่วย: กล้วยอุดมไปด้วยโพแทสเซียมและแมกนีเซียม ซึ่งช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย และยังมีทริปโตเฟน (tryptophan) ที่เป็นกรดอะมิโนจำเป็นต่อการผลิตสารเซโรโทนิน (serotonin) และเมลาโทนิน (melatonin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ควบคุมการนอนหลับ
ช่วงเวลาที่กิน: 1 ชั่วโมงก่อนนอน
วันอังคาร: ส้ม
ทำไมถึงช่วย: วิตามินซีในส้มช่วยลดระดับฮอร์โมนความเครียดอย่างคอร์ติซอล (cortisol) ทำให้ร่างกายและสมองรู้สึกผ่อนคลายขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้น ซึ่งก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้นอนหลับสบายขึ้นด้วย
ช่วงเวลาที่กิน: 2-3 ชั่วโมงก่อนนอน
วันพุธ: เชอร์รี่ (ถ้าหาได้) หรือลองเป็นแก้วมังกร
ทำไมถึงช่วย: เชอร์รี่ โดยเฉพาะพันธุ์ทาร์ตเชอร์รี่ (tart cherry) เป็นแหล่งของเมลาโทนินตามธรรมชาติที่ดีมาก แต่ถ้าหาเชอร์รี่ไม่ได้จริงๆ แก้วมังกร ก็เป็นตัวเลือกที่ดีไม่แพ้กัน เพราะมีโพแทสเซียมสูงและยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย
ช่วงเวลาที่กิน: 1-2 ชั่วโมงก่อนนอน
วันพฤหัสบดี: กีวี
ทำไมถึงช่วย: การวิจัยพบว่าการกินกีวี 2 ผลก่อนนอนเป็นเวลา 4 สัปดาห์ ช่วยให้นอนหลับได้เร็วขึ้นและหลับได้นานขึ้นด้วย เพราะกีวีมีสารต้านอนุมูลอิสระและเซโรโทนินสูง
ช่วงเวลาที่กิน: 1 ชั่วโมงก่อนนอน
วันศุกร์: ฝรั่ง
ทำไมถึงช่วย: ฝรั่งมีแมกนีเซียมและโพแทสเซียมสูง ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ทำให้ร่างกายพร้อมสำหรับการนอนหลับ และยังมีวิตามินบี 3 และบี 6 ที่ช่วยในการทำงานของระบบประสาทให้สงบลง
ช่วงเวลาที่กิน: 1-2 ชั่วโมงก่อนนอน
วันเสาร์: มะพร้าว
ทำไมถึงช่วย: น้ำมะพร้าวเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยให้ร่างกายชุ่มชื้นและมีแมกนีเซียมที่ช่วยคลายเครียด ส่วนเนื้อมะพร้าวก็มีไขมันดีที่ช่วยให้รู้สึกอิ่มสบายท้อง ไม่ตื่นมาหิวตอนกลางคืน
ช่วงเวลาที่กิน: 1-2 ชั่วโมงก่อนนอน
วันอาทิตย์: สับปะรด
ทำไมถึงช่วย: สับปะรดช่วยเพิ่มระดับเมลาโทนินในร่างกายได้ดีไม่แพ้กล้วยเลยค่ะ นอกจากนี้ยังมีเอนไซม์ที่ช่วยย่อยอาหาร ทำให้ท้องไม่อืดและนอนหลับสบายขึ้น
ช่วงเวลาที่กิน: 1 ชั่วโมงก่อนนอน
ข้อควรจำ:
ควรกินผลไม้เหล่านี้ในปริมาณที่พอเหมาะ (เช่น กล้วย 1 ผล หรือส้ม 1 ลูก) และไม่ควรกินใกล้เวลานอนมากเกินไปเพื่อป้องกันอาการไม่สบายท้อง
นอกจากผลไม้แล้ว การสร้างบรรยากาศที่ดีในห้องนอน และการลดแสงสีฟ้าจากหน้าจออุปกรณ์ต่างๆ ก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้การนอนหลับมีประสิทธิภาพมากขึ้นค่ะ