สัญญาณที่บอกว่า "ปลั๊กไฟ" (เต้ารับที่ผนัง หรือปลั๊กพ่วง) ควรเปลี่ยนทันทีเพื่อความปลอดภัย:
เสียบแล้วหลวม ไม่แน่น หรือโยกเยกง่าย:
นี่คือสัญญาณหลักที่บอกว่าหน้าสัมผัสภายในสึกหรอ การสัมผัสที่ไม่ดีจะทำให้เกิดความร้อนสูง เสี่ยงต่อประกายไฟและไฟไหม้ รวมถึงอาจทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าเสียหายจากไฟกระตุกได้
มีรอยไหม้ รอยดำ หรือมีกลิ่นไหม้รอบเต้าเสียบ:
เป็นสัญญาณอันตรายที่ชัดเจนว่าเกิดความร้อนสูงจากการลัดวงจร หรือการใช้ไฟเกินกำลังอย่างต่อเนื่อง ควรรีบเปลี่ยนและตรวจสอบการใช้งาน
มีประกายไฟ หรือเสียงดังคล้ายการช็อตขณะเสียบ/ถอดปลั๊ก:
แสดงว่าการเชื่อมต่อภายในไม่ปกติ มีโอกาสเกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้สูงมาก
สายไฟหรือตัวปลั๊กพ่วงมีรอยแตกหัก ฉีกขาด หรือฉนวนสายไฟเปื่อยยุ่ย:
ฉนวนที่ชำรุดทำให้สายไฟภายในสัมผัสกันหรือสัมผัสกับวัตถุอื่นได้ เสี่ยงต่อไฟรั่วและไฟฟ้าลัดวงจร
ปลั๊กไฟพ่วงที่ใช้งานมานานเกิน 3-5 ปี (โดยประมาณ):
แม้จะยังใช้งานได้ปกติ แต่การใช้งานเป็นประจำทุกวันย่อมทำให้หน้าสัมผัสภายในสึกหรอไปตามเวลา เพื่อความปลอดภัยในระยะยาวจึงควรพิจารณาเปลี่ยนตามอายุการใช้งานที่เหมาะสม
ข้อควรระวังเพิ่มเติม:
เลือกซื้อที่มี มอก. (มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม): เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัย
ห้ามใช้ปลั๊กพ่วงเสียบต่อกันหลายชั้น: เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดความร้อนสะสมและไฟไหม้
หลีกเลี่ยงความชื้น: ไม่ควรติดตั้งหรือใช้งานปลั๊กไฟในบริเวณที่เปียกชื้นสูง
สรุปคือ: หากพบอาการผิดปกติใด ๆ ตามที่กล่าวมาข้างต้น ควรรีบเปลี่ยนปลั๊กไฟใหม่ทันที อย่าฝืนใช้ต่อเพื่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน