เผยเคล็ดลับ! บอกลารักแร้ดำ กู้ผิวเนียนใส ไร้กลิ่นกวนใจ

เคล็ดลับดีๆ ที่จะช่วยให้รักแร้ของคุณขาวเนียน ไร้กลิ่นอับได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เคล็ดลับแก้ปัญหารักแร้ดำ:

1. ปรับเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย:

  • ลองเปลี่ยนไปใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน ไม่มีแอลกอฮอล์ น้ำหอม หรือสารเคมีที่ระคายเคือง
  • พิจารณาใช้สารส้ม (Alum) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติและช่วยระงับกลิ่นได้ดี
  • บางคนอาจลองหยุดใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายไปเลย เพื่อดูว่าอาการดีขึ้นหรือไม่

2. เลิกโกน เปลี่ยนเป็นวิธีอื่น:

  • การโกนอาจทำให้เกิดการระคายเคือง ผิวหนังอักเสบ และรอยดำคล้ำ
  • ลองเปลี่ยนเป็นวิธีแว็กซ์ หรือเลเซอร์กำจัดขนแทน

3. ขัดผิวอย่างสม่ำเสมอ:

  • การสะสมของเซลล์ผิวที่ตายแล้วเป็นสาเหตุหนึ่งของรักแร้ดำ
  • ใช้สครับอ่อนโยนขัดผิวบริเวณรักแร้ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์
  • สามารถใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น น้ำตาลทรายผสมน้ำผึ้ง หรือเบกกิ้งโซดาผสมน้ำเล็กน้อย

4. บำรุงผิวด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติ:

  • มะนาว: มีกรดซิตริกช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน (ควรผสมกับน้ำหรือส่วนผสมอื่นเพื่อลดความเข้มข้น)
  • มันฝรั่ง: เอนไซม์ในมันฝรั่งช่วยให้ผิวขาวขึ้นได้
  • แตงกวา: ให้ความชุ่มชื้นและช่วยให้ผิวสว่างใส
  • ว่านหางจระเข้: ลดการอักเสบและให้ความชุ่มชื้น
  • น้ำมันมะพร้าว: ให้ความชุ่มชื้นและมีสารต้านอนุมูลอิสระ
  • ขมิ้น: มีคุณสมบัติช่วยลดรอยดำและทำให้ผิวกระจ่างใส (ควรผสมกับส่วนผสมอื่น เช่น โยเกิร์ต หรือน้ำผึ้ง)

5. หลีกเลี่ยงการเสียดสี:

  • สวมเสื้อผ้าที่หลวมสบาย ไม่รัดแน่นบริเวณรักแร้ เพื่อลดการเสียดสี

6. ดูแลเรื่องสุขอนามัย:

  • อาบน้ำทำความสะอาดร่างกายเป็นประจำ โดยเฉพาะบริเวณรักแร้
  • เช็ดรักแร้ให้แห้งสนิทหลังอาบน้ำ

เคล็ดลับแก้ปัญหารักแร้มีกลิ่นอับ:

1. อาบน้ำและทำความสะอาด:

  • อาบน้ำอย่างน้อยวันละครั้ง โดยใช้สบู่อ่อนโยนเน้นบริเวณรักแร้
  • สบู่ที่มีส่วนผสมของสารต้านแบคทีเรียอาจช่วยได้

2. เช็ดให้แห้งสนิท:

  • หลังอาบน้ำ เช็ดรักแร้ให้แห้งสนิท เพราะความชื้นเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรีย

3. ใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายที่เหมาะสม:

  • Deodorant: ช่วยลดกลิ่น แต่ไม่ได้ลดเหงื่อ
  • Antiperspirant: ช่วยลดเหงื่อ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของกลิ่นอับ (ควรใช้กับผิวที่แห้ง)
  • ลองใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารส้ม ซึ่งช่วยระงับกลิ่นและเหงื่อได้

4. โกนหรือแว็กซ์ขนรักแร้:

  • ขนรักแร้เป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรีย การกำจัดขนช่วยลดกลิ่นอับได้

5. สวมเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี:

  • เลือกเสื้อผ้าที่ทำจากผ้าฝ้าย หรือผ้าที่ระบายอากาศได้ดี เพื่อลดความอับชื้น

6. หลีกเลี่ยงอาหารบางชนิด:

  • อาหารบางชนิด เช่น กระเทียม หอมใหญ่ เครื่องเทศบางชนิด หรือแอลกอฮอล์ อาจทำให้เหงื่อมีกลิ่นแรงขึ้น

7. ลดความเครียด:

  • ความเครียดอาจกระตุ้นให้ต่อมเหงื่อทำงานมากขึ้น

8. ลองใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ:

  • เบกกิ้งโซดา: ช่วยดูดซับกลิ่นและความชื้น ทาเบกกิ้งโซดาเล็กน้อยบริเวณรักแร้
  • น้ำมะนาว: ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ทาบางๆ แล้วล้างออก (ระวังหากผิวแพ้ง่าย)
  • น้ำส้มสายชูแอปเปิล: ช่วยปรับสมดุล pH ของผิว ลดการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย (เจือจางก่อนใช้)
  • ทีทรีออยล์: มีคุณสมบัติฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ผสมกับน้ำแล้วสเปรย์บริเวณรักแร้

ข้อควรระวัง:

  • หากลองวิธีต่างๆ แล้วอาการไม่ดีขึ้น หรือมีอาการแพ้ ระคายเคือง ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสม
  • การเปลี่ยนแปลงของสีผิวหรือกลิ่นตัว อาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพบางอย่างได้

สิ่งสำคัญที่สุดคือความสม่ำเสมอในการดูแลรักษา และการสังเกตว่าวิธีไหนเหมาะกับสภาพผิว

แสดงความคิดเห็น

ใหม่กว่า เก่ากว่า