การเก็บเห็ดให้สดใหม่ ไม่เน่า และไม่ขึ้นราได้นานนั้น หัวใจสำคัญคือการจัดการกับความชื้นและการระบายอากาศที่ดี เพราะเห็ดมีน้ำเป็นส่วนประกอบสูง และความชื้นที่สะสมจะทำให้เห็ดเน่าและเป็นเมือกได้เร็วมาก นี่คือวิธีเก็บเห็ดที่เชี่ยวชาญและได้ผลดีที่สุด แบ่งตามระยะเวลาการเก็บรักษา:
1. วิธีเก็บเห็ดแบบสด (เก็บได้ 5-10 วัน ในตู้เย็น)
วิธีนี้เหมาะสำหรับการเก็บเห็ดเพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อให้เห็ดคงความสด กรอบ และรสชาติดีกว่าเดิม
เคล็ดลับสำคัญ
ห้ามล้างเห็ดก่อนเก็บเด็ดขาด: เห็ดจะดูดซับน้ำและเน่าเสียเร็วขึ้น ให้ทำความสะอาด (เช็ดหรือล้าง) เฉพาะก่อนนำไปปรุงอาหารเท่านั้น
หลีกเลี่ยงถุงพลาสติกปิดสนิทหรือภาชนะที่แน่น: เพราะจะทำให้ความชื้นสะสมและเกิดเมือกได้ง่าย
วิธีการเก็บรักษาที่ดีที่สุด
ใช้ถุง/กล่องกระดาษ: นำเห็ดใส่ใน ถุงกระดาษสีน้ำตาล (เช่น ถุงใส่ของชำ) แล้วพับปากถุงเบา ๆ หรือใส่ใน กล่องพลาสติกที่มีรูระบายอากาศ หรือปิดฝาแบบไม่สนิท
ใช้กระดาษซับความชื้น: วาง กระดาษทิชชู่สำหรับงานครัว (Paper Towel) ไว้ด้านล่างและห่อหุ้มเห็ดบางส่วน เพื่อช่วยดูดซับความชื้นส่วนเกิน
เก็บในตู้เย็น: นำถุงกระดาษหรือกล่องเห็ดที่เตรียมไว้ไปเก็บใน ช่องแช่ผัก หรือในตู้เย็นชั้นปกติ (อุณหภูมิและความชื้นกำลังพอเหมาะ)
ข้อควรระวัง: อย่าเก็บเห็ดไว้ใกล้ผักหรือผลไม้ที่ปล่อยก๊าซเอทิลีน (เช่น กล้วย มะเขือเทศ แอปเปิล) เพราะก๊าซนี้จะเร่งให้เห็ดเน่าเสียเร็วขึ้น
2. วิธียืดอายุเห็ดให้เก็บได้นานขึ้น (แช่แข็ง/ตากแห้ง)
หากคุณมีเห็ดจำนวนมากและต้องการเก็บไว้ใช้ได้นานหลายเดือน วิธีที่ดีที่สุดคือการแปรรูป
🍄 การเก็บเห็ดแบบแช่แข็ง (เก็บได้ 1-2 เดือน)
การแช่แข็งเหมาะสำหรับเห็ดที่จะนำไปปรุงอาหารประเภทต้ม ผัด หรือใส่แกง เนื่องจากเนื้อสัมผัสอาจเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อละลาย
ทำความสะอาดและหั่น: ทำความสะอาดเห็ด (เช็ดหรือล้างเร็ว ๆ แล้วซับให้แห้ง) จากนั้นหั่นตามขนาดที่ต้องการ
ลวกหรือผัดก่อนแช่แข็ง:
วิธีลวก: ต้มในน้ำเดือด 1-2 นาที แล้วตักขึ้นแช่น้ำเย็นจัดทันที จากนั้นซับให้แห้งสนิท
วิธีผัด: ผัดเห็ดในเนยหรือน้ำมันเล็กน้อยจนสุก (วิธีนี้จะช่วยคงรสชาติได้ดีกว่า)
บรรจุและแช่แข็ง: แบ่งเห็ดที่สุกและเย็นแล้วใส่ใน ถุงซิปล็อกสำหรับแช่แข็ง หรือภาชนะสุญญากาศ พยายามไล่อากาศออกให้มากที่สุด แล้วนำไปแช่ใน ช่องแช่แข็ง (Freezer)
การนำมาใช้: สามารถนำไปประกอบอาหารได้ทันทีโดยไม่ต้องรอละลาย
☀️ การเก็บเห็ดแบบตากแห้ง (เก็บได้นานหลายเดือนถึงเป็นปี)
วิธีนี้เป็นวิธีดั้งเดิมที่ช่วยยืดอายุเห็ดได้นานที่สุด และยังทำให้เห็ดมีรสชาติเข้มข้นขึ้นเมื่อนำไปแช่น้ำกลับมาใช้
หั่นเป็นชิ้นบาง: หั่นเห็ดเป็นชิ้นบางสม่ำเสมอ เพื่อให้แห้งง่ายและทั่วถึง
ตากแดดหรืออบ:
ตากแดด: วางบนตะแกรงในที่ที่มีแดดจัด และอากาศถ่ายเท จนเห็ดแห้งกรอบสนิท
เครื่องอบแห้ง/เตาอบ: ใช้เครื่องอบแห้งอาหาร หรือใช้เตาอบที่อุณหภูมิต่ำ (ประมาณ 60-95°C) เปิดฝาเตาอบแง้มเล็กน้อย เพื่อให้ความชื้นระเหยออกไป จนเห็ดแห้งสนิทและเบา
บรรจุและเก็บ: เก็บเห็ดแห้งไว้ใน ภาชนะที่ปิดสนิท (Airtight Container) เช่น โหลแก้ว หรือถุงสุญญากาศ แล้วเก็บไว้ในที่ แห้ง เย็น และมืด
สรุปสัญญาณเตือนว่า "เห็ดเสียแล้ว"
เนื้อสัมผัส: เริ่มมี เมือก เหนียว หรือนิ่ม จนเกินไป (ยกเว้นเห็ดบางชนิดที่นิ่มตามธรรมชาติ)
สี: เริ่มมี จุดด่างดำ หรือเปลี่ยนสีอย่างชัดเจน
กลิ่น: มี กลิ่นเปรี้ยว กลิ่นเหม็น หรือกลิ่นผิดปกติ (เห็ดสดที่ดีจะมีกลิ่นเหมือนดินจาง ๆ)