ความลับของกล้วยปิ้ง สำหรับคน ลดน้ำหนัก ต้องกินแบบไหน?

กล้วยปิ้งมีแนวโน้มที่ดีต่อการลดน้ำหนัก แต่ก็มีจุดที่ต้องระวังซึ่งคือ น้ำเชื่อมหรือน้ำตาลที่ราดเพิ่มเติม ครับ

กล้วยปิ้ง: อ้วนไหม? ดีหรือไม่ดีต่อการลดน้ำหนัก?

คำตอบขึ้นอยู่กับ "สิ่งที่เพิ่มเข้าไป" และ "ปริมาณ" ที่เรากินเป็นหลักครับ

แคลอรี่และสารอาหาร: โดยทั่วไป กล้วยน้ำว้าปิ้ง 1 ผล ให้พลังงานประมาณ $90 - 120$ กิโลแคลอรี ซึ่งเป็นตัวเลขที่ไม่สูงนักเมื่อเทียบกับของหวานอื่น ๆ (ใกล้เคียงกับกล้วยสุกธรรมดา)
ดีต่อการลดน้ำหนัก:
- มีไฟเบอร์สูง: ช่วยให้อิ่มท้องนาน ลดความอยากอาหารระหว่างมื้อ เหมาะเป็นของว่างที่ดีต่อสุขภาพ
- คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน: เป็นแหล่งพลังงานที่ดีและย่อยช้า ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่พุ่งสูงเร็วเกินไป (เมื่อเทียบกับน้ำตาลบริสุทธิ์)
- ไม่ใช้น้ำมัน: การปิ้งดีกว่าการทอดตรงที่ไม่เพิ่มไขมันเข้าไป

นี่คือตัวการหลักที่ต้องระวัง:
- แคลอรี่เพิ่มขึ้น: เมื่อราดน้ำเชื่อม (ส่วนใหญ่ทำจากน้ำตาลและกะทิ) พลังงานจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจสูงถึง $150 - 200$ กิโลแคลอรีต่อชิ้น หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับปริมาณที่ราด
- น้ำตาลสูง: การได้รับน้ำตาลมากเกินไปจะกระตุ้นการสะสมไขมัน ทำให้การลดน้ำหนักทำได้ยากขึ้น และยังทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดขึ้นเร็วและลงเร็ว ทำให้หิวก่อนเวลาได้

กรณี	กินแล้วอ้วนไหม?	เหมาะกับการลดน้ำหนักหรือไม่?
กล้วยปิ้ง (ไม่ราดน้ำเชื่อม)	ไม่ ถ้ากินในปริมาณที่เหมาะสม	ดีมาก เป็นของว่างที่ให้พลังงานดีและอิ่มนาน
กล้วยปิ้ง (ราดน้ำเชื่อม/เนย)	อ้วนขึ้นได้ง่าย ถ้ากินปริมาณมาก	ไม่ดี เพราะได้รับน้ำตาลและแคลอรี่สูงเกินไป

คำแนะนำ:

เลือกแบบ "ไม่ราด" หรือ "ราดน้อยที่สุด": หากคุณต้องการคุมน้ำหนักจริง ๆ ควรทานกล้วยปิ้งเปล่า ๆ หรือให้แม่ค้า/พ่อค้าใส่แค่พอให้มีรสชาติเท่านั้น
จำกัดปริมาณ: ไม่ว่าจะดีแค่ไหน ถ้ากินมากเกินไปก็ทำให้อ้วนได้อยู่ดี ควรจำกัดการทาน เช่น ไม่เกิน $2 - 3$ ลูกต่อวัน และอย่าลืมนำแคลอรี่ของกล้วยปิ้งไปรวมในปริมาณแคลอรี่รวมที่ต้องควบคุมในแต่ละวันด้วย
กินแทนของหวานอื่นๆ: ให้คิดว่ากล้วยปิ้งเป็นทางเลือกที่ดีกว่าขนมหวานที่มีน้ำตาลสูงหรือมีไขมันจากการทอด

ดังนั้น กล้วยปิ้งเป็นอาหารที่มีประโยชน์และสามารถเป็นส่วนหนึ่งของการลดน้ำหนักได้ เพียงแค่ต้องระวังปริมาณ น้ำเชื่อมหวานๆ ที่ราดเท่านั้นเอง